วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563

มะยม

ชื่อวงศ์ : EUPHORBIACEAE
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Phyllanthus acidus (L.) Skeels
ชื่อพ้อง : Phyllanthodendron acidus (L.) Skeel
ชื่อสามัญ : Star gooseberry
ชื่อพื้นเมืองอื่น : มะยม (ทั่วไป) ; หมักยม, หมากยม (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-อุดรธานี) ; ยม (ภาคใต้)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ต้นขนาดเล็ก (ExST) สูงประมาณ 3-10 เมตร ลำต้นตั้งตรงเปลือกต้นเป็นปุ่มปม ขรุขระ สีเทาปนน้ำตาล แตกกิ่งก้านแผ่กระจาย กิ่งก้านเปราะและแตกง่าย
ใบ เป็นใบรวม มีใบย่อยออกเรียงสลับกันเป็น 2 แถวบนกิ่งที่เรียงอยู่รอบ ๆ ใกล้ปลายกิ่ง ลักษณะใบรูปขอบขนานกลมหรือรูปค่อนข้างเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน โคนใบมน ขอบใบเรียบ ปลายใบแหลม แผ่นใบบาง สีเขียวอ่อน หรือเขียวอมเหลือง ท้องใบหรือด้านล่างสีนวล ก้านใบสั้น
ดอก ออกดอกเป็นช่อเล็กๆ แบบช่อแยกแขนง ออกช่อดอกตามลำต้น หรือกิ่งที่ไร้ใบ ช่อดอกสีชมพู ส่วนดอกมีขนาดเล็ก กลม กลีบดอกรูปทรงกลม หรือรูปทรงกลมแกมรูปไข่สีเขียวอ่อน หรือดอกแดงเรื่อๆ เป็นดอกแบบสมมาตรตามรัศมี                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                            ผล ลักษณะผลกลมแป้นห้อยเป็นพวงระย้า ตามกิ่งและลำต้น มีขนาดเล็ก ด้านบนบุ๋ม ด้านล่างแบน ผลอ่อนมีสีเขียวอ่อน และจะออกสีเหลืองอมขาวเมื่อแก่
เมล็ด กลมแข็งและเป็นเหลี่ยม มีหนึ่งเมล็ด
นิเวศวิทยา เป็นไม้ในเมืองไทย ชอบกลางแจ้ง ปลูกได้ทั่วไปในเขตร้อน นิยมปลูกไว้ตามบ้านเรือน เพื่อความเป็นสิริมงคล และประโยชน์ใช้สอย
การปลูกและขยายพันธุ์ เจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชนิดทั้งที่แดดจัดหรือรำไร แต่จะชอบดินร่วนซุยที่น้ำไม่ขัง มีความชื้นพอเหมาะ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด
ระโยชน์ทางยา
รสและสรรพคุณในตำรายา                                                                                             ราก รสจืด เป็นยาแก้โรคผิวหนัง เม็ดผดผื่นคัน ช่วยขับน้ำเหลือง ดับพิษเสมหะโลหิต ประดง ทาแก้คัน สูดไอร้อนแก้ไอ แก้หืดหอบ แก้ปวดศีรษะ น้ำยางเปลือกรากมีพิษเล็กน้อย ถ้ากินเข้าไปจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง ปวดศีรษะและง่วงซึม                                                             
เปลือกต้น รสจืด แก้ไข้ทับระดู หรือแก้ไข้เพื่อโลหิต แก้ผดผื่นคัน
ใบ รสจืดมัน เป็นยาแก้ไอ บำรุงประสาท ขับเสมหะ แก้พิษไข้อีสุกอีใส ปรุงเป็นส่วนประกอบของยาเขียวรับประทานดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ แก้ไข้ตัวร้อน ไข้หัวต่างๆ แก้โรคหัดเหือด ต้มรวมกับใบหมากผู้หมากเมีย ใบมะเฟือง อาบแก้ผื่นคัน พิษไข้หัว เหือด หัด สุกใส ดำแดง และฝีดาษ น้ำต้มใบดื่มพร้อมผลเป็นยาขับเหงื่อ
ดอก รสเปรี้ยวฝาด ใช้ล้างและชำระฝ้านัยน์ตา แก้โรคในตาได้ดี
ผล รสเปรี้ยวสุขุม กัดเสมหะ แก้ไอ บำรุงโลหิต และระบายท้อง โขลกรวมกับพริกไทยเป็นยาพอกแก้ปวดกล้ามเนื้อ และปวดหลัง น้ำต้มใบดื่มพร้อมกับผล เป็นยาขับเหงื่อ ผลรับประทานได้ทั้งดิบและสุก มีรสเปรี้ยว มีฤทธิ์เป็นกรด ใช้ทำแยมหรือเชื่อมก็ได้ เป็นยาฝาดสมาน แก้หลอดลมอักเสบ และขับปัสสาวะ
กาฝากมะยม ใช้ต้มเอาน้ำดื่มช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นปกติ มีวิตามินซี ใช้เป็นยาลดบุหรี่ เลิกบุหรี่
วิธีและปริมาณที่ใช้
  1. แก้ไข้ทับระดู หรือแก้ไข้เพื่อโลหิต โดยใช้เปลือกต้นสด 1 ฝ่ามือ หรือประมาณ 30-50 กรัม นำมาสับเป็นชิ้น ต้มในน้ำ 1 ลิตร เคี่ยวให้เหลือครึ่งหนึ่ง กรองเอาน้ำดื่ม เช้า-เย็น
  2. แก้ไอ ปวดศีรษะ โรคผิวหนัง เม็ดผดผื่นคัน โดยใช้รากสดประมาณ 1 กำมือ หรือ 50 กรัม ล้างให้สะอาดต้มในน้ำ 1 ลิตร กรองเอาน้ำดื่มเป็นประจำ
  3. ชำระล้างและชำระฝ้านัยน์ตา โดยใช้ดอกสดนำมาต้มแล้วกรองเอาน้ำมาชำระล้าง

วันเสาร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2560

๙ คำพ่อสอน








1. ความเพียร
การสร้างสรรค์ตนเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความอดทน เสียสละ แต่สำคัญที่สุดคือความอดทนคือไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นทำมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง คือดูมันครึทำดีนี่ แต่ขอรับรองว่าการทำให้ดีไม่ครึต้องมีความอดทน เวลาข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอนในความอดทนของตนเอง
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักเรียน นักศึกษา ครู และอาจารย์ในโอกาสเข้าเฝ้าฯ วันที่ 27 ตุลาคม 2516
2. ความพอดี
ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 18 ธันวาคม 2540
3. ความรู้ตน
เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน
พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ วันเด็ก ประจำปี 2521
4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้
คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 20 เมษายน 2521
5. อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ
ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 มิถุนายน 2496
6. พูดจริง ทำจริง
ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2540
7. หนังสือเป็นออมสิน
หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท วันที่ 25 พฤศจิกายน 2514
8. ความซื่อสัตย์
ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง
พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปี พุทธศักราช 2531
9. การเอาชนะใจตน
ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ
พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่าน ในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ 12 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 12 ธันวาคม 251